ตอนนี้นิก็ยังเป็นการเก็บตกจากสัมมนาลงทุนสไตล์สนุก! ปี 2 มาฝากกันค่ะ ทิ้งท้ายกันไปเมื่อวานว่า การลงทุนจะเป็นเครื่องมือที่จะพาเราไปถึงเป้าหมายทางการเงินที่เราตั้งใจไว้
(อ่านย้อนหลังได้ที่ https://nipapuntalk.wordpress.com/2015/09/12/)
ใน part ของการลงทุนนั้น เมื่อเราวางแผนการเงินของเราเป็นอย่างดีและมีการจัดสรรเงินตามเป้าหมายการเงิน ก็ถึงเวลาที่จะต้องนำเงินที่จัดสรรไว้สำหรับการลงทุน มาทำการลงทุนกันค่ะ
ถ้าเราเป็นมือใหม่ในการลงทุน เราจะมีช่องทางการลงทุนในอะไรได้บ้าง
ง่ายสุดๆ ก็เริ่มจากกองทุนรวมค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับใครที่มีรายได้ และต้องเสียภาษี กองทุนรวมที่แนะนำคือ กองทุนรวม LTF และ RMF ซึ่งจะทำให้เราได้สิทธิประโยชน์หลายต่อเลยทีเดียว
ถัดมาก็เป็นการลงทุนในหุ้น พื้นฐานง่ายๆ หากยังไม่รู้ว่าจะเลือกหุ้นยังไง การลงทุนผ่านกองทุนรวมดัชนี เช่น กองทุนรวม SET50 เป็นต้น ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะผู้จัดการกองทุนก็จะนำเงินของเราไปลงทุนในหุ้นที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด 50 อันดับแรกให้เราค่ะ ระหว่างนั้นเราก็ต้องฝึกปรือฝีมือ เรียนรู้เรื่องการลงทุนไปเรื่อยๆ ห้ามหยุดเรียนรู้เป็นอันขาด
เมื่อเรียนรู้แล้ว ก็ต้องลงสนาม เราจะไม่มีทางเก่งเรื่องการลงทุนขึ้นมาได้เลย หากเราเป็นเพียงผู้ชมที่นั่งอยู่ข้างสนาม เราจะเก่งขึ้นก็ต่อเมื่อเราไปเป็นผู้เล่นในสนามค่ะ และแน่นอนการลงทุนมีความเสี่ยง เราสามารถจำกัดความเสี่ยงจากการลงทุนได้โดย
1. การวางแผนการเงิน ซึ่งย้ำแล้วย้ำอีกว่าการวางแผนการเงินนั้นสำคัญมาก อ่านย้อนหลังได้ที่ https://nipapuntalk.wordpress.com/2015/09/12/
2. การทำ asset allocation หรือการกระจายลงทุนไปยังสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ว่าง่ายๆ คือการไม่ใส่ไข่ไว้ในตระกร้าเดียวนั่นเอง สินทรัพย์การลงทุน เช่น พันธบัตร หุ้นกู้ หุ้น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น เหตุผลที่เราต้องกระจายการลงทุน คือเป็นการกระจายความเสี่ยงนั่นเอง เพราะไม่มีสินทรัพย์ใด สินทรัพย์หนึ่งที่จะชนะตลาดตลอดไป และก็ไม่มีสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งที่จะแพ้ตลาดตลอดไปด้วยเช่นกัน
3. การทำ Dollar Cost Average, DCA หรือการทยอยลงทุนเท่าๆ กันทุกเดือน วิธีนี้จะทำให้เรามีระเบียบวินัยในการลงทุน และที่สำคัญจะขจัดอารมณ์ในการลงทุน ซึ่งอารมณ์ในการลงทุนจะมีอยู่ 2 อารมณ์ คือ ความกลัวกับความโลภค่ะ
4. มีวินัย ปฏิบัติตามแผนการลงทุน และมีการทบทวนการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากการลงทุนผ่านกองทุนรวม และลงทุนในหุ้นแล้ว คุณผู้อ่านท่านใดที่บริษัทมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ Providend fund เราก็ควรจะออมเงินและลงทุนผ่าน Providend fund ของเราอย่างเหมาะสมด้วย เช่น หากเราอายุยังน้อย ก็ควรจะเลือกลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในสัดส่วนที่สูงขึ้นมาหน่อยนะคะ เนื่องจากหากเรามีระยะเวลาการลงทุนที่นาน เราก็จะสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงในสัดส่วนที่สูงขึ้นได้ค่ะ
สำหรับการลงทุนในหุ้นนั้น นิคิดว่าหากเราอยากจะลงทุนให้สนุกและมีความสุข คุณต้องหาสไตล์การลงทุนของคุณให้เจอ ซึ่งกว่าจะรู้ว่าสไตล์การลงทุนของเราเป็นยังไง ต้องเกิดจากการที่คุณต้องลงสนามอยู่ดีค่ะ ลองผิดลองถูก ลงทุนและเรียนรู้ไปเรื่อยๆ และในที่สุด คุณก็จะหาแนวทางการลงทุนของคุณเองได้
สไตล์การลงทุน เช่น การลงทุนในหุ้นปันผล การลงทุนในหุ้นเติบโต การลงทุนในหุ้น Big Cap (หุ้นที่มีมูลค่าตลาดสูง) และการเก็งกำไร เป็นต้น ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีการลงทุนที่แตกต่างกัน ขอยกตัวอย่างจากประสบการณ์การลงทุนของนิเองให้ฟังแล้วกันนะคะ
นิเริ่มลงทุนครั้งแรกผ่านกองทุนรวมหุ้นที่จ่ายเงินปันผลค่ะ นิเป็นคนชอบเงินปันผลมาก เพราะนิมีเป้าหมาย ‘ไม่อยากเกษียณอายุ ด้วยการเป็นมนุษย์เงินเดือน’ หรืออีกนัยหนึ่งก็มีเป้าหมาย ‘อยากมีอิสรภาพทางการเงิน’ ซึ่งนิคิดว่าก็น่าจะเป็นเป้าหมายลึกๆ ในใจของใครหลายๆ คนด้วยเช่นกัน
ในการที่จะมีอิสรภาพทางการเงินได้นั้น นิต้องมีรายได้จากสินทรัพย์ (Passive Income) มากกว่าค่าใช้จ่าย เมื่อไหร่มี่นิมีรายได้จากสินทรัพย์มากกว่าค่าใช้จ่าย เมื่อนั้นนิจะมีอิสรภาพทางการเงินค่ะ
รายได้จากสินทรัพย์ เช่น ค่าเช่า เงินปันผล เป็นต้น ตอนที่เริ่มทำงานใหม่ ๆ เราคิดว่าการจะมีอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าสักห้องนึงเนี่ย ใช้เงินที่ค่อนข้างสูง และต้องไปกู้เงินแบงค์อีกต่างหาก เราก็เลยคิดว่ามันยาก นิก็เลยไปเริ่มต้นจากการลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งใช้เงินแค่หลักร้อย หลักพันก็ลงทุนได้แล้ว
เมื่อลงทุนในกองทุนรวมได้สักพัก ก็สามารถสะสมเงินก้อนได้ ก็เริ่มอยากจะลงทุนในหุ้น ตอนแรกๆ ที่ความรู้ยังไม่เยอะ ยังอ่านงบการเงินไม่เป็น ก็เลยเลือกหุ้น Big Cap ไปก่อน เพราะคิดว่า หุ้นกลุ่มนี้ไม่น่าจะเจ๊งง่ายๆ และเราก็รู้จักกิจการของหุ้นที่เราไปลงทุนเป็นอย่างดี (ช่วงแรกเลือกหุ้นตัวใหญ่แบบไม่ได้ดูงบการเงินเลยนะคะ)
หลังจากนั้นเราก็มาเรียนรู้ หัดอ่านงบการเงิน วิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน อ่านรายงานประจำปี แล้วเราก็ค่อยๆ เลือกหุ้นที่จ่ายปันผลดีๆ ออกมา ช่วงหลังก็เลยเปลี่ยนเป็นเน้นการลงทุนในหุ้นปันผล เฉพาะแค่หุ้น 4 ตัวแรกเท่านั้นที่นิลงทุนแบบไม่ดูงบการเงิน หลังจากนั้นจะลงทุนในหุ้นตัวใดตัวหนึ่งนั้นต้องผ่านการวิเคราะห์มาอย่างดีแล้วเท่านั้นค่ะ เคยลองเป็นแนว trading คือซื้อๆ ขายๆ ไม่ไหวค่ะ ไม่เป็นอันทำมาหากินอะไรเลย คอยแต่จะจ้องหน้าจอ เครียดและไม่สนุกเลย เราก็เลยเลิก trading ค่ะ มาลงทุนในแนวทางที่เราชอบและมีความสุขดีกว่า
เอาล่ะค่ะ เก็บตกจากสัมมนามาฝาก พอหอมปากหอมคอนะคะ หากใครอยากฟังของจริง สามารถรับชมสัมมนาย้อนหลังได้ที่ www.set.or.th/digitalinvestor แต่เมื่อกี้นิลอง click เข้าไปดูยังไม่มี clip งานวันนี้มาลงนะคะ อาจจะต้องใช้เวลานิดหน่อยกว่าทางตลาดจะ upload clip ขึ้นไปที่ website ยังไงถ้าสนใจก็ลองติดตามได้ค่ะ
สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการวางแผนการเงินกับนิได้ที่ nipapuntalk@hotmail.com ค่ะ หรือ ที่ Official Line Account: @nipapuntalk (อย่าลืม เติม @ ไว้ข้างหน้า nipapuntalk ด้วยค่ะ) แล้วพบกันในตอนต่อไปค่ะ และหากคิดว่าเป็นประโยชน์ช่วยแชร์ด้วยนะคร้า ขอบคุณมากค่ะ ^^