วันนี้เรามาว่ากันด้วยเรื่อง “ประชากรของประเทศไทย” ของเรากันดีกว่าค่ะ
โดยที่เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2558 ที่ผ่านมามีรายงานข่าวว่า ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เกี่ยวกับจํานวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร โดยตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2557 นั้น พบว่า ประเทศไทยมีประชากรทั้งหมด 65,124,716 คน ในจำนวนนี้แยกเป็นชาย 31,999,008 คน หญิง 33,125,708 คน
ซึ่งจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดก็คือกรุงเทพฯ มีประชากร 5,692,284 คน แยกเป็นชาย 2,695,519 คน หญิง 2,996,765 คน
โดยจากข้อมูลดังกล่าวนี้ก็เห็นได้ชัดเจนว่า… ประชากรหญิงมีมากกว่าประชากรชาย!! ตามหลักฐานทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2557 ในภาพรวมทั่วประเทศ ประชากรหญิงมีมากกว่าชาย 1,126,700 คน ถ้าโฟกัสที่เมืองหลวง กรุงเทพฯ ประชากรหญิงมีมากกว่าชาย 301,246 คน
ทีนี้หากเรามาว่ากันด้วยเรื่อง “สังคมผู้สูงอายุ” จากจำนวนประชากร ตามหลักการสากลทางองค์การสหประชาชาติ ระบุไว้ว่า ประเทศใดมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปในสัดส่วนเกินร้อยละ 10 ของประชากรทั้งประเทศ ถือว่าประเทศนั้นก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หรือ Aging Society และจะเป็น “สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ” หรือ “สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์” หรือ Aged Society เมื่อสัดส่วนประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20
สำหรับในประเทศไทย มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย ระบุไว้ว่า ไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมาตั้งแต่ช่วงปี 2549-2550 และจากรายงานสำรวจประชากรในปี 2550 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า ประชากรสูงอายุในไทยมีประมาณ 7 ล้านคน หรือร้อยละ 11 ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งบ่งชี้ว่า ประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว และคาดว่าในปี 2565-2570 ไทยจะมีสัดส่วนประชากรสูงอายุเกือบร้อยละ 25 หรือเฉลี่ยในประชากร 4 คน จะมีผู้สูงอายุ 1 คน หรือ ไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์เกินเกณฑ์!
นอกจากนี้ จากการที่มีสุขภาวะที่ดีขึ้น ทำให้อัตราการเกิดและอัตราการตายลดลง ส่งผลให้ประเทศไทยมีประชากรสูงอายุเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในด้านขนาดของครอบครัวจะเล็กลง เฉลี่ยประมาณ 2 คน/ครัวเรือน และจะมีคนอยู่คนเดียวมากขึ้น โดยมีแนวโน้มที่ประชากรเมืองหลวงเมืองใหญ่จะออกไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างจังหวัดมากขึ้นค่ะ
ในเวลา 35 ปีจากนี้ คือปี 2558-2593 ไทยจะมีสัดส่วนประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว วัยทำงานจะลดลงอย่างมาก โดยจาก 43 ล้านคนในปี 2558 จะเหลือ 32 ล้านคนในปี 2593 ซึ่งประชากรกว่า 1.7 ล้านคนจะอยู่ในภาวะสมองเสื่อมมากขึ้น อัตราเด็กเกิดใหม่จะมีเพียงร้อยละ 1.3
ขณะที่คาดว่าในปี 2593 ไทยจะมีประชากรที่อายุมากกว่า 65 ปี เพิ่มเป็น 16.5 ล้านคน หรือร้อยละ 27.9 ของประชากร และ แม้จะดูกันที่ประชากรไทยที่อายุมากกว่า 65 ปี มิใช่แค่ 60 ปี ประเทศไทยก็ยังจะมีสัดส่วนผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึงประมาณ 2.7 ล้านคนด้วยค่ะ
ข้อมูลนี้กำลังบอกอะไรเราคะ กำลังบอกว่า คนไทยมีแนวโน้มอายุยืนขึ้น มีลูกน้อยลง และจะอยู่คนเดียวมากขึ้นด้วยค่ะ นอกจากนี้การมีประชากรวัยทำงานลดลงก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลมากค่ะ เราจึงไม่อาจคาดหวังให้ลูกหลานมาเลี้ยงดูเราตอนแก่ได้จริงๆ นะคะ ดังนั้นการวางแผนการเงินจึงเป็น ‘วาระแห่งชาติ’ จริงๆ ค่ะ
แล้ววันนี้คุณได้ ‘วางแผนการเงิน’ แล้วหรือยัง??
ที่มาของข้อมูล นสพ.เดลินิวส์ 6 มี.ค. 2558
#CoachNI #Wealthinspirer
นิภาพันธ์ พูนเสถียรทรัพย์ CFP